ปรากฏการณ์ "เจนนี่ไลฟ์" จุดเปลี่ยน Live Commerce และ Influencer Marketing ของไทย สู่ยุคใหม่ที่แบรนด์จ่ายเมื่อ 'ขายได้จริง' เท่านั้น

ปรากฏการณ์ "เจนนี่ไลฟ์"

ปรากฏการณ์ "เจนนี่ไลฟ์": พลิกโฉม Live Commerce ไทย

จุดเปลี่ยน Live Commerce และ Influencer Marketing ของไทย สู่ยุคใหม่ที่แบรนด์จ่ายเมื่อ 'ขายได้จริง' เท่านั้น

ยอดขายจาก TikTok Live ครั้งประวัติศาสตร์

30 ล้าน+

บาท ภายใน 4 ชั่วโมง

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น (รัชนก สุวรรณเกตุ) ได้สร้างมาตรฐานใหม่ ที่ท้าทายโมเดลการจ่ายค่าตัว KOL แบบเดิมๆ โดยสิ้นเชิง

แผนภูมินี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ จากเดิมที่แบรนด์เน้นการรับรู้ (Awareness) ซึ่งวัดผลได้ยาก ไปสู่การเน้นยอดขายที่จับต้องได้ (Sales-Driven) ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากปรากฏการณ์เจนนี่ไลฟ์

ต้นแบบความสำเร็จจากจีน: เมื่อ Live Commerce คือสมรภูมิ E-commerce หลัก

ในขณะที่ไทยกำลังตื่นตัว จีนได้พัฒนารูปแบบ Live Commerce จนกลายเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายล้านล้านบาท เรามาถอดบทเรียนจาก 5 อินฟลูเอนเซอร์ระดับท็อปของจีนที่สร้างยอดขายถล่มทลาย

กราฟแท่งเปรียบเทียบยอดขายโดยประมาณในวันเดียว (เช่น วันคนโสด 11.11) ของ KOL จีน แสดงให้เห็นถึงขนาดของตลาดและศักยภาพอันมหาศาลของการขายผ่านไลฟ์สด

1. หลี่ เจียฉี (Li Jiaqi) - "ราชาลิปสติก"

ยอดขาย: > 45,000 ล้านบาท (วันคนโสด 2021)

  • กลยุทธ์: สร้างความน่าเชื่อถือสุดขีด ทดลองสินค้าจริง (ทาลิปสติกหลายร้อยสี), ดีลพิเศษสุด และใช้จิตวิทยาเร่งการตัดสินใจ (Limited Time Offer)

2. เวยย่า (Viya) - "ราชินีไลฟ์สด"

ยอดขาย: > 40,000 ล้านบาท (วันคนโสด 2021)

  • กลยุทธ์: ความหลากหลายของสินค้า ตั้งแต่เครื่องสำอางจนถึงจรวด! สร้างอาณาจักรซัพพลายเชนของตัวเองเพื่อควบคุมคุณภาพและราคา

3. ซินบา (Xinba) - "ราชาแห่ง Taobao"

ยอดขาย: > 9,000 ล้านบาท (วันคนโสด 2020)

  • กลยุทธ์: สร้าง Community ที่ภักดีเหมือนครอบครัว เน้นสินค้าราคาเข้าถึงง่าย และแสดงภาพลักษณ์ "คนสู้ชีวิต" ที่จริงใจ

4. หลัวหย่งฮ่าว (Luo Yonghao) - "CEO นักขาย"

ยอดขาย: > 550 ล้านบาท (ไลฟ์แรกบน Douyin)

  • กลยุทธ์: เปลี่ยนจาก CEO บริษัทเทคโนโลยีมาเป็นผู้ขาย ใช้ความรู้เชิงลึกของสินค้า (โดยเฉพาะ Gadget) สร้างความน่าเชื่อถือ และดึงดูดฐานแฟนคลับเดิม

5. จางต้าอี้ (Zhang Dayi) - "นางแบบสู่เจ้าแม่ E-commerce"

ยอดขาย: > 500 ล้านบาท (ใน 2 ชั่วโมง)

  • กลยุทธ์: ต้นแบบของ "โรงงานสู่ผู้บริโภค" (C2M) ใช้ข้อมูลจากแฟนคลับในการออกแบบและผลิตสินค้าแฟชั่นของตัวเอง ทำให้ขายสินค้าได้ตรงใจ

โมเดลเปลี่ยนโลก: จาก "ค่าจ้าง" สู่ "ส่วนแบ่ง"

ปรากฏการณ์เจนนี่ไลฟ์ได้เร่งการเปลี่ยนแปลงของโมเดลความร่วมมือระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ จากรูปแบบเดิมที่เน้นการจ่ายเงินเพื่อการมองเห็น ไปสู่รูปแบบใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพและการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน

โมเดลเก่า (Fixed Fee)

แบรนด์: จ่ายค่าตัวตามเรทการ์ด

อินฟลูเอนเซอร์: โพสต์/ไลฟ์ตามบรีฟ

ผลลัพธ์: เน้นการเข้าถึง/การรับรู้ (Reach/Awareness)

ความเสี่ยง: แบรนด์แบกรับความเสี่ยง ยอดขายไม่การันตี

โมเดลใหม่ (Performance-Based)

แบรนด์: ให้ค่าคอมมิชชั่น/ส่วนแบ่ง

อินฟลูเอนเซอร์: ใช้กลยุทธ์ทุกทางเพื่อปิดการขาย

ผลลัพธ์: เน้นยอดขายจริง (Conversion/Sales)

ความเสี่ยง: Win-Win ทั้งสองฝ่าย แบรนด์จ่ายเมื่อขายได้ อินฟลูเอนเซอร์ได้ส่วนแบ่งตามความสามารถ

3 แนวทางรอดและรุ่ง สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ไทย

ในยุคที่แบรนด์ฉลาดเลือกและเน้นผลลัพธ์ อินฟลูเอนเซอร์ต้องปรับตัวเพื่อสร้างคุณค่าและยอดขายที่พิสูจน์ได้

💰

1. กำหนดค่าตัวสมเหตุสมผล

ประเมินศักยภาพการขายของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา สร้างเรทการ์ดที่ยืดหยุ่น อาจมีค่าตัวพื้นฐานบวกกับค่าคอมมิชชั่น เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์เล็กและใหญ่กล้าที่จะร่วมงานด้วย

🤝

2. เปิดโมเดลรายได้หลากหลาย

อย่าพึ่งพารายได้จากค่าจ้างทางเดียว สำรวจโมเดล Affiliate Marketing, Revenue Sharing หรือแม้กระทั่งการสร้างแบรนด์ของตัวเอง (O-brand) เพื่อสร้างความมั่นคงและโปร่งใส

📈

3. เรียนรู้เทรนด์และอัลกอริทึม

ศึกษาการทำงานหลังบ้านของแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Shopee Live ให้ลึกซึ้ง เข้าใจว่าอัลกอริทึมนำส่งไลฟ์อย่างไร และใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มการมองเห็นและสร้างยอดขายสูงสุด

ความจริงแท้เชิงอัลกอริทึม: ถอดรหัสปรากฏการณ์ 'เจนนี่' และคู่มือเปรียบเทียบจากยักษ์ใหญ่ไลฟ์คอมเมิร์ซแห่งประเทศจีน

Views: 15
homescontents
homescontents